Saturday, 21 January 2012

ພຣົມ

- ສວັນຄ໌ ຫຼືເທວະໂລກ ຄືພົບພູມອັນເປັນທີ່ຢູ່ຂອງເທວະດາ ເປັນທີ່ຢູ່ອາໄສຂອງກາຍຣະຽດ ເປັນພົບພູມອັນມີ ແຕ່ຄວາມສຸກ ສົມບູນດ້ວຍທິບພະສົມບັດຕ່າງໆ ເຊິ່ງມີຢູ່ ໖ ຊັ້ນ ຜູ້ທີ່ຈະໄປຈຸຕິບົນສະຫວັນໄດ້ນັ້ນຈະຕ້ອງເປັນຜູ້ ທີ່ປະກອບບຸນກຸສົນອັນດີງາມ.
- ພຣົມມະໂລກນັ້ນ ເປັນພົບພູມທີ່ຢູ່ຂອງຜູ້ຈະເຣີນສະມາທິຈົນໄດ້ຊານ ເຊິ່ງມີຢູ່ ໒໐ ຊັ້ນ.

ກ. ສະຫວັນ ຫຼືເທວະໂລກ ມີ ໖ ຊັ້ນ ເຊິ່ງຮຽກວ່າ ສະກາມາວະຈອນ ມີດັ່ງນີ້:
໑. ຈາຕຸມາຫາຣາຊິກາ ມີທ້າວມະຫາຣາດທັງອ ໔ ເປັນຜູ້ປົກຄອງ ຄື:
໑.໑. ທ້າວທະຕະຣະຖະ ປົກຄອງເທວະດາ ໓ ພວກໄດ້ຄົນທັບ ວິທະຍາທອນ ກຸມພັນ.
1.2. ທ້າວວິຣຸນຫົກ ປົກຄອງຄຸດ.
1.3. ທ້າວວິຣູປັກ ປົກຄອງພວກນາກ.
1.4. ທ້າວເວດສຸວັນ ປົກຄອງພວກຍັກຂ໌.


สวรรค์ หรือ เทวโลก มี 6 ชั้น ซึ่งเรียกว่า ฉกามาพจร มีดังนี้
1. จาตุมหาราชิกา มีท้าวมหาราชทั้ง 4 เป็นผู้ปกครอง คือ
-1. ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร กุมภัณฑ์
-2. ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ
-3. ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค
-4. ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์
2. ดาวดึงส์ มีพระอินทร์ เป็นผู้ปกครอง
3. ยามา มีท้าวสุยามเทวราช เป็นผู้ปกครอง
4. ดุสิต มีท้าวสันดุสิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
5. นิมมานรดี มีท้าวสุนิมมิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
6. ปรนิมมิตวสวัตดี มีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช เป็นผู้ปกครอง
พรหมโลกมีทั้งหมด 20 ชั้น แบ่งเป็น รูปพรหม 16 ชั้น และ อรูปพรหม 4 ชั้น
รูปพรหม 16 ชั้น
1. พรหมปาริสัชชาภูมิ
2. พรหมปุโรหิตาภูมิ
3. มหาพรหมาภูมิ
4. ปริตตาภาภูมิ
5. อัปปมาณาภาภูมิ
6. อาภัสราภูมิ
7. ปริตตสุภาภูมิ
8. อัปปมาณสุภาภูมิ
9. สุภกิณหาภูมิ
10. เวหัปผลาภูมิ
11. อสัญญีสัตตาภูมิ
12. อวิหาสุทธาวาสพรหมภูมิ
13. อตัปปาสุทธาวาสพรหมภูมิ
14. สุทัสสาสุทธาวาสพรหมภูมิ
15. สุทัสสีสุทธาวาสพรหมภูมิ
16. อกนิฏฐสุทธาวาสพรหมภูมิ
อรูปพรหม 4 ชั้น
1. อากาสานัญจายตนภูมิ
2. วิญญาณัญจายตนภูมิ
3. อากิญจัญญายตนภูมิ
4. เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

สิบแปดสาด

เมื่อครั้งที่เรียนศึกษาวิชาพระพุทธประวัติ เรามักจะเห็นคำว่า 18 ศาสตร์
ซึ่งเป็นวิชาที่เจ้าฟ้าพระราชามหากษัตริย์ในสมัยอดีตส่งบุตรหลานไปศึกษาเป็นประจำ
นักประพันธ์โบราณ ได้ประพันธ์ 18 ศาสตร์ ไว้ ดังต่อไปนี้

สุติ สัมมติ สังขะยา จ โยคา นีติ วิเสสะกา

คันธัพพา คะณิกา เจวะ ธะนุเพทา จ ปูระณา

ติกิจฉา อิติหาสา จะ โชติ มายา จ ฉันทะติ

เกตุมันตา จะ สัททา จะ สิปปาฏจาระกา อิเม


1. สูติ เวททั้งสามอย่าง ที่เป็นหลักความรู้
2. สัมมุติ เวททางศาสตร์ที่เป็นความรู้รอบตัว มีฉันทศาสตร์ ไวยากรณ์ นุรุตติ โชยติ กัลปะ
และคู่มืออีก 3 อย่าง พิธีบวงสรวง บอกฤกษ์ปลูกเรือน ธรรมเนียม ประเพณี
3. สังขะยา ความรู้เกี่ยวกับการเกิดขึ้น ความตั้งอยู่ และความรู้การดับของโลก คือ โมกขะ หรือนิพพาน
4. โยคะ หลักปฏิบัติเกี่ยวกับวิญญาณเพื่อให้เข้าถึงความดับสนิทคือนิพพาน
5. นีติ ความรู้จักศีลธรรม จรรยาและกฎหมาย
6. วิเสสกะ ความรู้เกี่ยวเหตุผลโดยการอ้างบุญบาปมาเป็นปทัฏฐาน
7. คันธัพพะ วิชานาฏศิลป์
8. คณิกา วิชาการคำนวณ
9. ธนุเพท ยิงธนู
10. ปุราณะ โบราณคดี เกี่ยวกับพงศาวดารดั้งเดิม
11. ติกิจฉา แพทย์ศาสตร์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลไข้
12. อิติหาสะ ประวัติศาสตร์หรือตำนาน
13. โชติ ดาราศาสตร์ การพยากรณ์ตามการโคจรของดวงดาว แรงดึงดูดของดวงดาว ฤดู วัน เดือน ปี
14. มายา วิธีแสดงอุบายเอาชนะข้าศึก เช่น ตำราพิชัยสงคราม
15. ฉันทะ วิชาฉันทศาสตร์ รู้การแต่งกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์
16. เกตุ รู้นิมิตลางร้ายดีของเมฆ หมอ ควัน อันเป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับตำราพิชัยสงคราม
17. มันตะ รู้เวทย์มนต์ คาถา เลข ยันต์
18. สัททะ รู้เสียงสัตว์ที่บอกลางร้าย ลางดี รู้คัมภีร์สัททาวิเสส

ถ้าจะเทียบกับปัจจุบันนี้ คงเป็นวิชาเหล่านี้ (แต่ข้อไมได้ตรงกัน) คือ


1. ยุทธศาสตร์ วิชาการรบ
2. รัฐศาสตร์ การปกครอง
3. นิติศาสตร์ กฎหมาย จารีตประเพณี
4. พาณิชยศาสตร์ การค้าขาย
5. อักษรศาสตร์ วรรณคดี
6. นิรุกติศาสตร์ ภาษาของตนเองและภาษาต่างประเทศ
7. คณิตศาสตร์ การคำนวณ
8. ดาราศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ดวงดาวในจักรวาล
9. โหราศาสตร์ พยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ
10. ภูมิศาสตร์ ดูพื้นที่ แผนที่ของสถานที่ต่างๆ
11. เวชศาสตร์ การพยาบาลรักษาคนป่วย
12. ตรรกศาสตร์ ว่าด้วยเหตุผล
13. สัตวศาสตร์ ดูลักษณะสัตว์ รู้จักเสียงและอาการของสัตว์
14. วิศวกรรมศาสตร์ ช่างกล
15. ปรัชญา-ศาสนศาสตร์ วิชาการด้านแนวความคิดและศาสนาต่างๆ
16. นโยบายศาสตร์ ชั้นเชิงในการเจรจา วางแผน หรือตำรับพิชัยสงคราม
17. นาฏศาสตร์ ดนตรี นาฎศิลป์
18. ฉันทศาสตร์ การแต่งกาพย์ กลอน โคลง