Friday 6 June 2008

Bodhi Tree, ตันพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา

Bodhi Tree, ตันพระศรีมหาโพธิ์ ที่พุทธคยา





ต้นพระศรีมหาโพธิ
ต้น พระศรีมหาโพธิ์ เป็นสถานที่ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ประทับ นั่งตรัสรู้ในคืนวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ก่อน พุทธศักราช ๔๕ ปี ณ สถานที่นี้ได้เคยมีพระ พุทธเจ้าองค์อื่น ๆ ในอดีตกาลถึง ๓ พระองค์ ที่ได้ทรงตรัสรู้แล้ว คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กกุสันโท โกนาคมนะ กัสสปะ และพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน และในอนาคตกาล จะเป็นที่ตรัสรู้ ของพระศรีอริยเมตไตรยต้นที่ปรากฏอยู่ใน ปัจจุบัน เป็นต้นที่ ๔ มีประวัติโดยสังเขปดังนี้
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ ๑
ต้นพระศรีมหา โพธิ์ที่พระพุทธองค์ได้ประทับนั่ง เพื่อตรัสรู้พระอนุตตรสัมโพธิญาณ เป็นสหชาติกับพระพุทธเจ้า อายุประมาณ ๓๕๒ ปี พระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ ถูกพระนางมหีสุนทรี มเหสีองค์ที่ ๔ ของพระเจ้าอโศกมหาราช ราดยาพิษและน้ำร้อนจนตาย พระเจ้าอโศกทรงเสีย พระทัยมาก ทรงอธิษฐานและสั่งให้เอาน้ำนมวัวถึง ๑๐๐ ตัวมารดหน่อของพระศรีมหาโพธิ์ จึงงอกขึ้นมาใหม่
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ ๒
พระเจ้าอโศกทรงปลูกเมื่อ พ.ศ. ๒๗๒ ในช่วงปี พ.ศ. ๑๑๔๓ - ๑๑๖๓ กษัตริย์ชาว ฮินดูแห่งแคว้นเบงกอล ชื่อ ศาศางกา ได้ทำลายเสีย ต่อมากษัตริย์แคว้นมคธชื่อ พระเจ้าปุรณวรมา ทรงทราบข่าว จึงเสด็จมาที่พุทธคยา ได้ทรงเห็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ถูกทำลาย จึงทรงให้เอา น้ำนมวัว ๑,๐๐๐ ตัว มารดจนหน่อของพระศรีมหาโพธิ์เกิดใหม่อีก
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ ๓
พระ เจ้าปุรณวรมา ได้ทรงปลูกหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ ๓ นี้ไว้ ณ ตำแหน่ง เดิม จนต้นเจริญงอกงามดี ต้นที่ ๓ นี้ มีอายุประมาณ ๑,๒๕๖ – ๑,๒๗๖ ปี ก็ตายลงด้วยถูก พายุพัดโค่น เพราะอายุแก่มากแล้ว ต่อมา เซอร์คันนิ่งแฮม ได้เห็นหน่อของต้นพระศรีมหาโพธิ์ งอกขึ้นมา ๒ หน่อ จึงเอาหน่อที่สูงประมาณ ๖ นิ้ว ปลูกไว้ที่เดิม หน่อที่สูงประมาณ ๔ นิ้ว ปลูกไว้ทางทิศเหนือขององค์พระเจดีย์
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ ๔
ท่าน เซอร์คันนิ่งแฮมได้นำมาปลูกไว้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๓ ณ ตำแหน่งเดิมของต้น พระศรีมหาโพธิ์ต้นแรก พระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้มีอายุประมาณ ๑๒๔ ปี ( พ.ศ.๒๕๔๗ ) นับแต่ปลูกมา ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็ยังแข็งแรงและสมบูรณ์ดี มีการกั้นรั้วทองเหลืองไว้โดยรอบ มีประตูเหล็กดัดสูง ๒ เมตร สร้างถวายโดยชาวพุทธศรีลังกา
๒. พระแท่นวัชรอาสน์
พระแท่นวัชรอาสน์ คือ ที่ประทับนั่ง ตรัสรู้ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในครั้งนั้น พระ พุทธองค์ทรงใช้หญ้ากุสะ ๘ กำมือ ที่ โสตถิยะพราหมณ์ถวายให้มาปูลาดนั่ง และเมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมา-สัมพุทธเจ้าแล้ว บัลลังก์ที่ประทับนั่งนั้น จึงถูกเรียกว่า อปราชิตบัลลังก์ หรือ รัตนบัลลังก์
ต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างเป็นแทนหินสลัก ประดิษฐานไว้ระหว่างต้น พระศรีมหาโพธิ์กับองค์พระเจดีย์ เพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานที่ถาวรยาวนาน พระแท่นนี้สร้างขึ้น โดยใช้แผ่นหินทราย เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวประมาณ ๗ ฟุต ๑๐ นิ้วครึ่ง กว้าง ๔ ฟุต ๗ นิ้วครึ่ง ความหนา ๖ นิ้วครึ่ง แกะสลักเป็นรูปแหวนเพชร นอกจากนั้น ยังมีรูปดอกบัว รูปพญาหงษ์ และดอกมณฑารพด้วย

No comments:

Post a Comment